ไม่ต้องสงสัยเลยว่าทำไมเครือข่ายสังคมออนไลน์จึงมีบทบาทเพิ่มขึ้นกับชีวิตคนจำนวนมากในปัจจุบัน นักการตลาดออนไลน์ได้คาดการณ์ไว้ว่าจะมีผู้ใช้งานเครือข่ายสังคมออนไลน์มากกว่า 1.43 พันล้านคนในปี 2555 จากการมีจำนวนผู้ใช้งานเพิ่มขึ้น 19.2 เปอร์เซ็นต์จากในปี 2554
ในบางจุดเราอยากมุ่งไปยังจุดสูงสุดของโซเชียลมีเดียแต่ก็ยังมองไม่เห็นว่าจะมีจุดนั้นเกิดขึ้นเร็วๆนี้
การใช้งานโซเชียลมีเดียมีความหลากหลายมาก จากสถานที่หนึ่งไปยังอีกสถานที่หนึ่งหรือแม้แต่จากรุ่นหนึ่งไปสู่อีกรุ่นหนึ่ง การสำรวจทางอินเทอร์เน็ตของ Pew พบว่า 65 เปอร์เซ็นต์ของผู้ใช้งานอินเทอร์เน็ตในสหรัฐอเมริกาใช้เว็บไซต์เครือข่ายสังคมออนไลน์ และมียอดสูงขึ้นถึง 61 เปอร์เซ็นต์ในปีที่ผ่านมา มีรายงานว่า 61 เปอร์เซ็นต์ของผู้ที่มีอายุต่ำกว่า 30 ปีใช้เว็บไซต์สังคมออนไลน์อย่างน้อยวันละหนึ่งครั้ง ในขณะที่ผู้ใช้งานอินเทอร์เน็ตที่มีอายุระหว่าง 50-64 มีจำนวนเพิ่มขึ้นอย่างรวดเร็ว จาก 20 เปอร์เซ็นต์ในปี 2553 เพิ่มเป็น 32 เปอร์เซ็นต์ในปีที่แล้ว
“เครือข่ายสังคมออนไลน์ยังจะยังคงมีอายุมากขึ้นเรื่อยๆ แต่ผู้ใช้งานที่มีอายุจะมีใช้งานโซเซียลเน็ตเวิร์คพวกนี้น้อยมาก” Mary Madden ผู้เชี่ยวชาญด้านการวิจัยและผู้ร่วมเขียนรายงานกล่าว “ในขณะที่ผู้อาวุโสทั้งหลายกำลังทดสอบน้ำ เด็กๆก็เริ่มวางแผนจัดพูลปาร์ตี้เป็นกิจวัตรประจำวัน” ควบคู่กับการใช้งานส่วนตัว ด้านธุรกิจก็ยังสามารถใช้ประโยชน์จากเว็บไซต์โซเชียลมีเดียได้เช่นกัน
การเข้าร่วมการศึกษาของบริษัทที่ปรึกษาการจัดการระดับโลก Booz & Company และ Buddy Media พบว่า 96 เปอร์เซ็นต์ของบริษัทที่ทำการสำรวจได้เพิ่มการลงทุนในด้านโซเชียลมีเดียเพิ่มขึ้น การโฆษณา การโปรโมท PR และการบริการลูกค้า ได้ถูกระบุไว้ให้เป็นการใช้งานหรือผลประโยชน์หลัก แต่การใช้งานแบบอื่นๆ เช่น การวิจัยตลาดและการสรรหาคนจะถูกรายงาน
Facebook: “เครือข่ายสังคมออนไลน์”
จำนวนโซเชียลมีเดียที่เพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่องเป็นข้อเท็จจริงที่ปฏิเสธไม่ได้ แต่เราสามารถติดตามเทรนด์ของโซเชียลมีเดียง่ายกว่าการคาดการณ์พวกมัน เมื่อไม่นานมานี้ MySpace ไม่ได้เป็นเพียงเว็บไซต์เครือข่ายสังคมที่ได้รับความนิยมสูงสุดทั่วโลกเท่านั้น แต่จากการอ้างอิงจาก Hitwise เว็บไซต์ที่มีจำนวนผู้เข้าชมสูงสุดในสหรัฐอเมริกาก็ยังล้มยักษ์ใหญ่อย่าง Google ให้ไปอยู่ในอันดับที่สอง
ทุกวันนี้เป็นวันของ Facebook จากภาพยนตร์เรื่อง the social network ที่เข้าฉายในปี 2553 เว็บไซต์ที่แซงหน้า MySpace บนรายการจัดอันดับของ Alexa ในปี 2551และไม่ตกอันดับไปไหนเลย
Facebook มีจำนวนผู้ใช้งานมากกว่า 845 ล้านคน และจากรายงานของ comScore ในปี 2554 เปิดเผยว่ามีเพียงเจ็ดประเทศทั่วโลกที่ Facebook ไม่ได้เป็นผู้ดูแลจัดการเอง ตัวเลขลดลงเป็น 6 ประเทศในเดือนธันวาคม แต่อย่างไรก็ตามเมื่อ Facebook มาแทนที่ Orkut ในฐานะที่เป็นผู้นำเครือข่ายสังคมออนไลน์อย่างกว้างขวางและยังเกิดขึ้นในตลาดบราซิลอีกเช่นกัน
“แม้ว่าความสัมพันธ์อันใกล้ชิดทางวัฒนธรรมสำหรับโซเชียลมีเดียซึ่งการยอมรับของ Facebook ค่อยๆคืบคลานเข้าสู่ตลาดอย่างช้าๆ” Alex Banks กรรมการผู้จัดการในบราซิลของ comScore กล่าวไว้“มันได้เปลี่ยนไปแล้วเมื่อปีที่ผ่านมา ระหว่างที่เว็บไซต์มีจำนวนผู้เข้าชมสามเท่าที่มีส่วนร่วมในการเติบโตถึงเจ็ดเท่า จึงสรุปได้ว่ามันมีตำแหน่งเป็นผู้นำในตลาด”
อย่างน้อยส่วนหนึ่งของความลับในการประสบความสำเร็จของ Facebook คือ มันจัดการในการนำเสนอตัวมันเองทั้งสำหรับบริการท้องถิ่นและบริการทั่วโลก ผู้ใช้งานรับรู้ว่ามันปรากฏบนโลกนี้จริงๆและมันสามารถทำการเชื่อมโยงกับผู้ใช้คนอื่นๆได้ทั่วโลกอย่างมีศักยภาพ ในเวลาเดียวกันการตั้งค่าภาษาท้องถิ่นและเนื้อหายังช่วยให้เว็บไซต์ถูกมองว่าเป็นชุมชนออนไลน์ในท้องถิ่นที่เชื่อมโยงซึ่งกันและกัน
ความแตกต่างของท้องถิ่น
ช่องว่างขนาดใหญ่อีกอย่างในโลก Facebook คือ ประเทศจีน เว็บไซต์ถูกแบนอย่างเป็นทางการในประเทศจีนแต่มีเว็บไซต์ท้องถิ่นจำนวนมากในตลาดจีน
รายงานของ eMarketer กำหนดให้ TencentQZone เป็นแนวหน้าของกลุ่มในประเทศจีน ในขณะที่ TencentWeibo, SinaWeibo และ Renren ยังมีส่วนแบ่งการตลาดที่มีความสำคัญมาก ด้วยตัวอินเทอร์เน็ตเองไม่ได้คาดการณ์ว่าจะเข้าถึงประชาชนขนาดใหญ่ของจีนได้ถึงปี 2558 Qzone อาจมีจำนวนผู้ใช้งานไล่เลี่ยกับ Facebook โดยปราศจากการขยายตลาดออกนอกประเทศจีน
ส่วนที่อื่นๆ เช่น รัสเซียก็มียักษ์ใหญ่อย่าง Vkontakte และ Odnoklassniki ซึ่งเป็นเว็บไซต์ที่ขยายตลาดไปยังประเทศแถบยุโรปตะวันออกอย่างรวดเร็ว
ส่วนประเทศญี่ปุ่น เกาหลีใต้ เวียดนามและโปแลนด์ก็เป็นประเทศอีกกลุ่มที่ comScore ระบุให้เป็นพื้นที่ที่ Facebook ไม่สามารถควบคุมส่วนแบ่งการตลาดให้ใหญ่ขึ้นได้ แม้ว่าจะมีเพียงไม่กี่ประเทศแต่ Facebook ก็ไม่ควรนิ่งนอนใจ
ในขณะที่ยังล้าหลังอยู่มากในด้านของผู้ใช้งานทั้งหมด การเติบโตของ Twitter ในสหรัฐอเมริกาถูกคาดการณ์ว่าจะสูงกว่า Facebook ถึงสี่เท่าในไม่กี่ปีจากนี้ เราอยากรู้ว่า Google+ จะจัดการและวางเว็บไซต์ให้มุ่งเน้นในเชิงธุรกิจอย่าง LinkedIn ซึ่งเติบโตอย่างต่อเนื่อง และ Pinterest ก็กำลังเติบโตอย่างรวดเร็ว
ปัจจุบันนี้ Facebook ยังคงมีการใช้งานอย่างต่อเนื่อง แต่อย่างไรก็ตามแนวโน้มของโซเชียลมีเดียสามารถเปลี่ยนแปลงได้อย่างรวดเร็ว จากที่เห็นว่าการใช้งานของ MySpace ลดลง ก็ไม่มีบริการใดมองข้ามความสำคัญในจุดนี้
ที่มาของเว็บ:http://blog.uptopromo.com/?p=1206
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น